Articles คือคำนำหน้านาม เป็นคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง การเรียน Articles ต้องทำความเข้าใจควบคู่ไปกับเรื่องนามนับได้ ( Countable Nouns ) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างสับสนสำหรับผู้เรียนซึ่งที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ( Non-native speakers of English ) หรือเรียนภาษาอังกฤษ เป็นภาษาต่างประเทศ ( English as a Foreign Language) เนื่องจากเป็นเรื่องที่มักจะตัดสินใจยากว่าอะไรเป็นนามนับได้ และอะไรเป็นนามนับไม่ได้
1. Articles แบ่งเป็น
2 ชนิด คือ
1.1 “a” หรือ “an” เรียกว่า Indefinite Articles
1.2 “the” เรียกว่า Definite Articles
1.2 “the” เรียกว่า Definite Articles
2. Indefinite Articles นำหน้านามเอกพจน์เท่านั้น ให้สังเกตคำนำหน้านามที่เป็น indefinite
article ต่อไปนี้
- a car -
a horse
- an elephant - an airplane
- the Pacific -
the air
จะสังเกตได้จากการใช้
a, an, the นั้น
จะขึ้นอยู่การออกเสียงของคำ ซึ่งตามหลัง a, an หรือนั้นมิใช่ขึ้นอยู่กับการสะกดคำ
ดังนี้
a uniform (ไม่ใช้คำว่า
an uniform) เพราะคำนี้อ่านออกเสียงตามพยัญชนะคือ ยู
a one - eyed man (ไม่ใช้คำว่า
an one eyed man)
เพราะคำว่า
one ออกเสียงด้วยพยัญชนะ
ว
สรุปได้ดังนี้
1. a ใช้นำหน้านามเอกพจน์ที่ออกเสียงแรกด้วยพยัญชนะดังนี้
- a shoe - a
European
- a car - a useful tool
- a cow a ewe -
a university
-
a union
2. ใช้ “an” นำหน้านามซึ่งตามหลังมา และนามนั้นออกเสียงเป็นเสียงสระ (เสียงสระ
คือเสียงที่เปล่งออกมาเป็นเสียง
“ออ” เช่น an accident an hour
- an egg -
an honor
- an orange - an
honest man
- an heir - an S. an M.A
- an interesting book
3. กฎของ Articles
มี 3 ประการ คือ
1. ห้ามใช้ “the” กับนามพหูพจน์ และนามนับไม่ได้ เมื่อกล่าวถึงสิ่งต่างๆ โดยทั่วไป เช่น
A church is usually cool
2. ห้ามใช้นามนับได้กับเอกพจน์
โดยไม่มี articles เช่น the book, a book แต่ไม่ใช่ book
3. ใช้ a หรือ
an นำหน้าอาชีพ หรืองานบุคคล เช่น She is a doctor
(ใช้ she is doctor) ไม่ได้
4. การใช้ articles
4.1 การใช้ indefinite
articles (a/an)
1) ใช้ในความหมาย “หนึ่ง” หรือ “any” เช่น
He has a brother
2) ใช้ในการบอกหน่วยการวัด a,
an มีความหมาย = ต่อ
- He drove the car at 100 miles an hour
- This Thai silk costs two hundred baht a
yard
3) ใช้นำหน้า dozen,
hundred, thousand, million, billion
- I bought a dozen book
- A hundred cows were in the field
4) ใช้นำหน้านามที่บอกอาชีพ
การค้า ศาสนา เป็นต้น
- She is a doctor
- She is an official in the bank
- She is a Buddhist
แต่ถ้านามนั้นบ่งถึงตำแหน่ง
หรือสำนักงานซึ่งกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งมีเพียงครั้งละผู้เดียวไม่ต้องใช้ a/an
- The made him Prime Minister
- Kanittha was Professor of Development Education
- Kanittha was Professor of Development Education
ไม่ต้องใช้
a/an กับคำนามที่บอกยศ
(rank หรือ title)
- My friend gained the rank of Coronel
- My friend gained the rank of Coronel
5) ใช้ a, an เมื่อเป็นการอ้างถึงบุคคลที่เรารู้จักแต่เพียงชื่อ
- A Mr. Johnson telephoned you this morning
- A Mr. Johnson telephoned you this morning
(ใช้ a แสดงว่าไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่เขาบอกว่าชื่อ Mr. Johnson)
6) ใช้ a, an กับนามที่ซ่อนนามตัวหน้า (noun in apposition) เมื่อสิ่งนั้นหรือคนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
- Sunthhornphoo is Thai poet
- Sunthhornphoo is Thai poet
- Daotho, a small village in Chiangmai
7). ใช้ a/an กับประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย What
- What a beaufiful girl she is !
- What an ugly man he is !
แต่ถ้าประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย
what นั้น
ตามด้วยนามนับไม่ได้ หรือนามพหูพจน์ไม่ ต้องใช้
a/an นำหน้านาม What + นามนับไม่ได้ + S+V
ตัวอย่าง “ What lovely flowers they are!’’
ตัวอย่าง “ What lovely flowers they are!’’
8) ใช้ a/an กับวลีต่อไปนี้
ตัวอย่าง - It’s a pity that she can’t come
ตัวอย่าง - It’s a pity that she can’t come
- He wants to keep this a secret
- as a rule: to be in a hurry
- to be in a good/bad temper
- to tell a lie: all of a sudden
- It’s a shame to do that : to take an
interest in
- to take a pride in: to take a dislike to
- to make a fool of oneself : to be in a
position to
- to have a mind to
- to have a chance : to have an opportunity
to
- at a discount/premium : on an average
- a short time ago
นอกจากนี้
ยังใช้ a/an กับความเจ็บไข้
เช่น
- To have a headache/ a pain/ a cold/ a cough
แต่
to have
toothache/earache/rheumatism/influenza
9) ใช้กับโครงสร้างต่อไปนี้
- such a : quite a: many a : rather a
- Many a letter has passed my desk since last
year
- Mana is quite a good boy
- He is rather a bad temper man
- It’s such a nice day!
4.2 การใช้ Definite
article (the)
ใช้ the นำหน้านามได้ที่ทั้งเป็นนามเอกพจน์
และพหูพจน์ และนามนับได้ หรือนามนับไม่ได้ โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
1)ใช้ the นำหน้านามซึ่งมีความหมายเฉพาะ
โดยดูจาก that clause
- This is the book that I bought for you
- This is the book that I bought for you
2) ใช้ the ในความหมายมีสิ่งเดียว
- The sun rises in the east and sets in the west
- The world : the equator : the universe
- The sun rises in the east and sets in the west
- The world : the equator : the universe
3) ชื่อเรือต่างๆ รถไฟ
เครื่องบิน
- The Queen May : The Comet
- The Queen May : The Comet
4) ชื่อที่เกี่ยวกับอาณาบริเวณภูมิศาสตร์เราใช้
the กับคำว่า country, sea, seaside และ
mountain แม้ว่าเราจะไม่ได้ชี้เฉพาะว่าเป็นทะเลใด หรือภูเขาแห่งไหน
- I like to live in the country
- I love the mountain, but I hate the sea
- I like to live in the country
- I love the mountain, but I hate the sea
5) ชื่อสถานที่ เรามักใช้ the
กับชื่อสถานที่ต่อไปนี้
- แม่น้ำ the Chaopraya
- มหาสมุทร the Pacific
- อ่าว the Gulf of Thailand
- แม่น้ำ the Chaopraya
- มหาสมุทร the Pacific
- อ่าว the Gulf of Thailand
- ทะเลทราย the Sahara
- ภูมิภาค the Middle East, the Midwest
- โรงแรม the Oriental Hotel
- สถาบัน the Midland Bank
- โรงละคร the Playhouse
- ชื่อร้าน the Central Department Store
- ทะเล the Red Sea
- หมู่เกาะ the Philippines (เกาะเดียวไม่ใช้ the)
- เทือกเขา the Himalayas (ภูเขาเดียวไม่ใช้ the)
- โรงภาพยนตร์ the Lido
- ภูมิภาค the Middle East, the Midwest
- โรงแรม the Oriental Hotel
- สถาบัน the Midland Bank
- โรงละคร the Playhouse
- ชื่อร้าน the Central Department Store
- ทะเล the Red Sea
- หมู่เกาะ the Philippines (เกาะเดียวไม่ใช้ the)
- เทือกเขา the Himalayas (ภูเขาเดียวไม่ใช้ the)
- โรงภาพยนตร์ the Lido
6) ใช้กับหนังสือต่างๆ เข่น The
Thairath, The Bangkok Post
7) ใช้กับชื่อครอบครัว เช่น The
Smiths
8) ใช้ the กับสิ่งที่ได้กล่าวถึงมาแล้วครั้งหนึ่ง (ถ้ากล่าวถึงครั้งแรกให้ใช้ a/an )
9) ใช้ the
นำหน้านามซึ่งขยายด้วยบุพบทวลี เช่น the battle of
Tungchang, the map of Bangkok
10) ใช้ the กับลำดับที่ในตำแหน่ง เช่น Queen Elizabeth the Second
11) ใช้ the นำหน้า common noun (นามที่ใช้เรียกชื่อทั่วๆ ไป)
ที่ตามด้วยชื่อเฉพาะ ซึ่งมาขยาย common noun เช่น the
planet Mar. the poet Sunthornpoo
นอกจากนี้ คำนามที่บอกเกี่ยวกับอาชีพ หรือการค้า และอยู่หลังชื่อเฉพาะให้ใช้ the นำหน้า เช่น Tawee, the bankder, Suda, the Personal Manager
นอกจากนี้ คำนามที่บอกเกี่ยวกับอาชีพ หรือการค้า และอยู่หลังชื่อเฉพาะให้ใช้ the นำหน้า เช่น Tawee, the bankder, Suda, the Personal Manager
Kingdom รวมทั้งชื่อประเทศที่เป็นพหูพจน์
เช่น The United Kingdom, the Netherlands และในกรณี common noun ซึ่งตามหลังชื่อทางภูมิศาสตร์ได้ถูกละไว้
ให้ใช้ the + ชื่อทางภูมิศาสตร์ นั้น The Sahara (ละ desert)
12) ใช้ the กับชื่อประเทศที่มีคำว่า Union, United อยู่
หรือขึ้นต้นด้วย Repulbic,
13) ใช้ the กับชื่อของเครื่องดนตรีที่ใช้ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Preeya plays
the piano. Kalong plays the ranard
14) ใช้ the นำหน้าคำคุณศัพท์ขั้นสุดที่ขยายนาม เช่น This is the oldest person
15) ใช้ the หน้าคุณศัพท์ที่ใช้เป็นคำนาม หมายถึงสิ่งนั้นทั้งหมด และเป็นพหูพจน์ เช่น the
rich, the poor, the brave
16) ใช้ the ในสำนวนที่เป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า 2 จำนวน
- The harder you work, the more you will be
paid
- The more he gets, the more he wants
4.3 การไม่ใช้ Article
1. นำคำนาม
ซึ่งใช้ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Life is very hard for some people
2. หน้าคำนามประเภท material
ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Butter is made from cream
3. หน้าคำนามพหูพจน์ในความหมายทั่วๆ
ไป เช่น Books are my best friends
4. หน้าคำนามที่เป็นชื่อมื้ออาหารทั่วๆ
ไป เช่น Come to dinner/ breakfast/ lunch/ tea
5. หน้าชื่อเฉพาะ I
walked in Hyde Park, Do you know the Regent Street?
6. หน้าทะเลสาป (Lake) แหลม (Cape) ภูเขา (mount) ยกเว้นเมื่อคำเหล่านี้มีคำว่า
of ตามหลัง เช่น the lake of Lucene, the Cape of
good hope
7. หน้าชื่อตำแหน่งตามด้วยชื่อเฉพาะ
เช่น King George, Doctor Amnuay
8. ชื่อภาษา และชื่อวิชาต่างๆ
เช่น She speaks French
9. ชื่อ
วิทยุและโทรทัศน์ในความหมายทั่วๆ ไป
10.
ไม่ใช้ article กับ Man หรือ
Woman
11 สำนวนต่างๆ ที่ละ article
เช่น go to school to stay at home. To be out of doors. The
men work by day but not by night. He is indebt/ in trouble. At any break/sunset
He did the work for love, not for money